วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

รีวิวสระมรกต


พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง


พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง

 

วัสดีครับ..พอดีผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกระบี่มาครับ และได้ไปเที่ยวที่สระมรกตมาเลยจะมารีวิวให้ชมกันครับว่า มีความน่าสนใจยังไงและสามารถเดินทางไปยังไงได้บ้าง สำหรับการเดินทางนั้นผมเริ่มต้นจากที่สนามบินกระบี่ครับ ก็คือลงเครื่องเช้ารถแล้วก็ขับตรงมาที่สระมรกตเลย


สระมรกต” สระน้ำสวยใสที่ซุกซ่อนตัวอยู่ใจกลางป่า ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม มีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมบริเวณสระมรกตแห่งนี้ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าชมสำหรับคนไทย 20 บาท และชาวต่างชาติ 200 บาท ซึ่งทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ จะเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพื้นที่ได้ในเวลา 8.30 น. – 17.00 น. ของทุกวัน
พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง

สระมรกต กระบี่ การเดินทาง

สระมรกตนั้นอยู่ห่างจากสนามบินกระบี่ประมาณ 45 กิโลเมตรครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครับ วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือการเช่ารถและขับไปครับ ถ้าขับรถไม่เป็นก็ต้องใช้บริการวันเดย์ทริปได้ครับ สามารถสอบถามได้จากโรงแรมที่พักได้เลยครับ

การจองที่พักในกระบี่ก็ไม่ยากครับ มีให้เลือกมากมาย ผมแนะนำจองที่พักออนไลน์ก่อนเดินทาง จะได้ราคาดี ไม่แพงมาก ลองดูเว็ป Traveloka ได้ครับ จองที่พักในกระบี่กับ Traveloka.com มีให้เลือกหลายราคาและหลากหลายสไตล์ จองผ่านแอปราคาก็ยิ่งถูกลงครับ ไหนจะมีโปรโรงแรมเด็ดๆ ให้ได้เลือกใช้กันอีก ลองดูครับ
พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง

มาเริ่มเดินทางไปสระมรกตกันเลยครับ ออกจากสนามบินกระบี่ให้เลี้ยวซ้ายครับ จากนั้นก็วิ่งตรงยาวไปเลยครับ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆครับ
พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง

ขับรถตามป้ายสระมรกตได้เลยครับ ไม่หลงแน่นอน
พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง

มาตรงนี้จะเป็นแยกให้เราเลี้ยวขวาครับ จากนั้นก็ขับไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงสระมรกตครับ สามารถจอดรถได้ทั้งด้านบน หรือจะลงมาจอดที่ด้านล่างๆใกล้ๆกับทางเข้าก็ได้ครับ แต่จะเสียค่าจอดรถนะครับ ประมาณ 30 บาทครับ

หลังจากจอดรถเรียบร้อยก็ต้องมาซื้อบัตรเข้าสระมรกตก่อนครับ โดยคนไทยราคาคนละ 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติราคา 200 บาทครับ

ส่วนทางเดินเข้าไปบริเวณสระมรกตนั้นก็สามารถเดินเข้าได้  2 ทางครับ ก็คือถ้าเดินตรงไปตามรูปด้านบนระยะทาง 800 เมตรจะถึงสระมรกตครับ ส่วนอีกทางนั้นจะใช้ระยะทาง 1400 เมตร

สระน้ำบริเวณทางเข้าครับ ใครไม่มีแรงเดินเข้าไปก็สามารถเล่นน้ำตรงนี้ได้ครับ น้ำใสมากๆ
พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง

น้ำตกเล็กบริเวณทางเข้าสระมรกตครับ เดียวเดินเข้าไปด้านในกันต่อครับ

ผมเลือกเดินเข้าทางนี้ครับ จะทำเป็นทางเดินเล็กๆแบบนี้ ระยะทาง 1400 เมตรครับ ไกลพอสมควรครับ
สระมรกต กระบี่

เดินมาประมาณ 20 นาทีก็จะมาถึงส่วนที่เรียกว่า สระแก้ว ก่อนครับ

สระแก้วเป็นสระน้ำที่ไหลมาจากสระมรกตอุณหภูมิของน้ำเข้าสู่ภสวะปกติ ทำให้มองเห็นน้ำใสเป็นแก้วจึงเป็นที่มาของชื่อว่าสระแก้ว

ส่วนนี้จะห้ามลงเล่นน้ำเนื่องจากน้ำลึกและโคลนดูดอาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้
สระมรกต กระบี่

จากสระแก้วก็จะมาถึงพระเอกของเราในวันนี้ ก็คือสระมรกตนั้นเองครับ ผมไปวันอาทิตย์คนเลยค่อนข้างเยอะครับ ใครชอบคนน้อยๆก็ต้องมาช่วงวันธรรมดาครับ
สระมรกต กระบี่
สระมรกต กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่า ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง สระมรกตกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ
สระมรกต กระบี่

สระมรกต กระบี่ เวลาเปิด-ปิด

เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน
ค่าธรรมเนียมการเข้าชม คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท
สระมรกต กระบี่

น้ำใสมากๆครับ เหมือนสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ธรรมชาติสร้างมาให้เราได้เล่นกันเลยครับ
สระมรกต กระบี่





ตะลุยสวนน้ำซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี



ตะลุยสวนน้ำซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี














ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี สวนน้ำที่ทำให้คุณสนุกชุ่มฉ่ำทั้งครอบครัว พร้อมโปรโมชั่นเด็ดสุดคุ้มทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และนักเรียน-นักศึกษา

เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มตัวกันแล้วสินะ เชื่อว่าอากาศร้อน ๆ คงทำให้หลายคนหงุดหงิดและมองหาที่เที่ยวดับร้อนกันอยู่แน่ ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจสำหรับที่เที่ยวคลายร้อน นั่นก็คือ "สวนน้ำซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี ชะอำ" สวนน้ำระบบดิจิตอลแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชีย และพูดได้ว่าทันสมัยที่สุดในประเทศ แถมยังได้รวบรวมแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ของความสนุกไว้เต็มรูปแบบ ด้วยเครื่องเล่นระดับมาตรฐานสากลติดอันดับท็อป 3 ของโลก พร้อมเติมเต็มความสนุกให้กับวันพักผ่อนของทุกคน อีกทั้งมีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับสากล โดยมีการจัดอบรมหลักสูตร Life Guard ให้กับเจ้าหน้าที่คุมเครื่องเล่นเพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการให้บริการด้วย

นอกจากนี้ยังใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น เรียกว่าจะเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็ได้ หรือหากขับมาจากชะอำก็ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น หรือใครที่มีแพลนไปลั้ลลาหัวหินก่อนเข้าเช็กอินก็แวะมาเที่ยวกันได้ค่ะ เกริ่นมาซะเยอะเชียว...เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของสวนน้ำกันเลยค่ะ

เมื่อล้อรถเลี้ยวเข้ามาในเขตพื้นที่ของสวนน้ำซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี จอดรถเสร็จสรรพก็ตรงดิ่งกันมาที่จุดขายตั๋วด้านหน้าค่ะ ซึ่งราคาตั๋วก็จะแบ่งเป็น






* ราคาสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย

- ผู้ใหญ่ ราคา 700 บาท

- เด็กที่มีความสูงระหว่าง 90-130 เซนติเมตร ราคา 400 บาท

- ผู้พิการ ราคา 400 บาท

- ผู้สูงอายุ (อายุ 55 ปีขึ้นไป) ราคา 400 บาท

- นักเรียน-นักศึกศึกษา เมื่อแสดงบัตร สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ 585 บาท

- เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร เข้าฟรี






* ราคาสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

- ผู้ใหญ่ 900 บาท

- เด็กที่มีความสูงระหว่าง 90-130 เซนติเมตร ราคา 500 บาท

- ผู้พิการ ราคา 500 บาท

- ผู้สูงอายุ (อายุ 55 ปีขึ้นไป) ราคา 500 บาท

- เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร เข้าฟรี






พิเศษ !! ใครที่มาตอนนี้ขอบอกเลยว่าคุ้มสุดคุ้ม เนื่องจากกำลังมีโปรโมชั่นเอาใจนักเรียน-นักศึกษา เพียงแสดงบัตรนักเรียน-นักศึกษา ก็เข้าไปรับความสนุกชุ่มฉ่ำกันได้ในราคาเพียง 585 บาทเท่านั้น






อ๊ะ ๆ มาดูกติกาอื่น ๆ กันนิดหนึ่งค่ะ...เริ่มจาก

เด็กที่มีส่วนสูงระหว่าง 90-119 เซนติเมตร ต้องใส่สายรัดข้อมือ (Wristband) สีส้ม และต้องสวมชูชีพตลอดเวลาขณะอยู่ในสวนน้ำเพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ได้ 3 โซน คือ Kid's Paradise of Demeter (สวนน้ำโจรสลัดสำหรับเด็กเล็ก), The Lazy Hera (สระน้ำวน) และ Poseidon's Lagoon (ทะเลเทียม) ซึ่งต้องบอกว่า แม้จะเล่นเครื่องเล่นได้ไม่กี่อย่าง แต่ความสนุกสนานนั้นคุ้มค่าสมราคาจริง ๆ ค่ะ





ส่วนเด็กที่มีความสูงระหว่าง 120-130 เซนติเมตร จะต้องสวมสายรัดข้อมือสีฟ้า และสามารถเล่นเครื่องเล่นแบบผู้ใหญ่ได้ทุกชนิด ยกเว้น Ares's King Cobra (สไลเดอร์งูยักษ์) และ Athena's Space Shaker ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากกกกกกกกในราคา 400 บาท

ส่วนผู้ใหญ่เล่นได้ทุกอย่างค่ะ ยกเว้นสวนน้ำโจรสลัดสำหรับเด็กเล็ก แต่ในกรณีที่เป็นผู้ปกครองสามารถเข้ามาใส่ส่วนนี้เพื่อดูแลเด็ก ๆ ได้อย่างใกล้ชิดค่ะ

เอาล่ะ...เมื่อซื้อบัตรเสร็จแล้วก็ตรงดิ่งกันมาที่ทางเข้าเลย จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำการใช้บัตรสแกนเพื่อเข้าประตูอยู่ตรงนี้ค่ะ









สำหรับใครที่ต้องการล็อกเกอร์เก็บของก็มาติดต่อที่เจ้าหน้าที่ตรงนี้เลยค่ะ หรือหากต้องการเช่าสายรัดข้อมือดิจิตอลระบบ Santorini Connects สำหรับแชร์ภาพลงเฟซบุ๊กก็มาติดต่อตรงนี้ได้เช่นกัน









ราคาค่าเช่าล็อกเกอร์มี 2 ราคา คือ ค่าเช่าตู้ล็อกเกอร์ขนาดปกติ 200 บาท และค่าเช่าตู้ล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ 250 บาท (ทั้งสองราคารวมค่ามัดจำแล้ว) และสามารถขอรับเงินค่ามัดจำเงินคืนได้หลังจากคืนกุญแจล็อกเกอร์ สำหรับผู้หญิงสามารถเดิน-เข้าออกล็อกเกอร์โซนผู้ชายได้สบาย ๆ ส่วนคุณผู้ชายไม่มีสิทธิ์เข้าโซนล็อกเกอร์ผู้หญิงนะคะ (แนะนำว่าหากไปกันสองคนก็ให้เก็บของไว้ที่ล็อกเกอร์ฝั่งผู้ชายดีกว่า เพราะสะดวกและไม่ต้องเช่าล็อกเกอร์เพิ่มด้วย)

นอกจากนี้ด้านหน้าบริเวณทางเข้าจะมีร้านขายชุดว่ายน้ำด้วย เผื่อใครไม่ได้ตระเตรียมมา แต่ก็สามารถใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นเล่นน้ำได้เลยค่ะ ยกเว้นเสื้อผ้าที่มีกระดุมหรือซิบเพราะเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายหรืออันตรายแก่ตัวผู้เล่นเอง







ด้านซ้ายและด้านขวาเป็นห้องน้ำชาย-หญิง และมีล็อกเกอร์อยู่ใกล้ ๆ กันด้วย ล็อกเกอร์ฝั่งผู้ชายจะเป็นสีฟ้า และฝั่งผู้หญิงจะเป็นสีชมพู






ใครที่เช่าล็อกเกอร์ก็จะได้สายรัดข้อมือดิจิตอลสำหรับเปิด-ปิดล็อกเกอร์






เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วจะเห็นว่ามีตู้คีออสตั้งสำหรับลงทะเบียนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำชาย ซึ่งตู้นี้มีไว้สำหรับลงทะเบียนบัญชีเฟซบุ๊กในกรณีที่คุณอยากได้ภาพสวย ๆ ขณะกำลังเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ อยู่ หรือที่เรียกว่า Santorini Connects ให้คุณไม่พลาดอัพเดททุกความเคลื่อนไหวในสวนน้ำให้เพื่อน ๆ ได้อิจฉา ซึ่งภายในสวนน้ำจะมีเครื่องเล่น 5 ชนิดที่คุณสามารถสแกนสายรัดข้อมือเพื่อแชร์ภาพลงเฟซบุ๊กได้ คือ Venus Free Fly, Vulcan’s Kamikaze, Bacchus’s Magic Hole, Apollo’s Drop Screamerและ Ares's King Cobra ส่วนรายละเอียดและวิธีลงทะเบียนมีติดไว้บริเวณตู้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าก่อนจะลงทะเบียนคุณต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอเช่าสายรัดข้อมือ Santorini Connects สำหรับแชร์ภาพลงเฟซบุ๊กเสียก่อน











ซึ่งสายรัดข้อมือ Santorini Connects ตัวนี้ยังสามารถเติมเงินเพื่อซื้ออาหารและของที่ระลึกในสวนน้ำได้ด้วย โดยมีค่ามัดจำสายรัดข้อมือ 100 บาท ส่วนเงินที่เติมลงไปหากมียอดคงเหลือก็สามารถเรียกคืนได้เมื่อคุณคืนสายรัดข้อมือดังกล่าวแล้ว




แวะอ่านป้ายสักนิดเกี่ยวกับรายละเอียดของเครื่องเล่นและข้อจำกัดต่าง ๆ และเมื่อทราบกฎกติกากันแล้ว ก็ลุยกันเลยค่ะ...เริ่มกันที่เครื่องเล่นเด็กน้อยที่มีส่วนสูงระหว่าง 90-119 เซนติเมตร (เด็กที่สวมสายรัดข้อมือสีส้ม) กับโซน Kid's Paradise of Demeter สวนน้ำธีมโจรสลัดสุดหรรษาที่มีถังน้ำใบโตอยู่ด้านบน เมื่อน้ำเต็มถังแล้วมันก็จะสาดซู่ซ่าสร้างบรรยากาศสนุกสนานสำหรับเด็กน้อยหรือคุณพ่อคุณแม่ที่มาดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Kid's Paradise of Demeter

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 100 เซนติเมตร ต้องมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด
จำกัดน้ำหนัก : สไลด์ได้ 1 คน น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม








แถมยังมีสไลเดอร์หลากหลายเพิ่มความสนุกมากขึ้นไปอีก





มีที่นั่งพักสำหรับผู้ปกครองที่มาดูแลบุตรหลานด้วยค่ะ






สนุกสุด ๆ ครับผม :)






ครอบครัวนี้ก็แท็กทีมกันมาสนุกไปกับโจรสลัด

ต่อกันที่โซน The Lazy Hera หรือสระน้ำวนที่มีห่วงยางทั้งแบบห่วงคู่และห่วงเดี่ยวให้คุณและลูก ๆ ล่องลอยท่ามกลางสายน้ำชิล ๆ หรือจะมาเป็นกลุ่มเป็นแก๊งแบบนี้ก็สนุกใช่เล่น แต่ทั้งนี้เด็ก ๆ ที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตร ก็ต้องสวมชูชีพเซฟกันไว้ด้วยนะจ๊ะ

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น The Lazy Hera

ส่วนสูง : ผู้ที่ส่วนสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตร ต้องสวมชูชีพ
อุปกรณ์ : ห่วงเดี่ยว / คู่






















หากเบื่อกับการแช่ตัวลอยไปลอยมาเฉย ๆ แล้ว ก็มาโต้คลื่นกันที่ Poseidon's Lagoon ทะเลเทียมที่พร้อมจะปล่อยคลื่นสนุก ๆ ทุก ๆ 40 นาที ให้คุณโต้คลื่นกันอย่างสนุกสนานด้วยบอร์ดโฟม สำหรับโซนนี้เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ หากเป็นเด็กเล็กก็ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิดและสวมชูชีพด้วยนะคะ บอกเลยว่าน้ำใสไหลเย็นมากจริง ๆ หากเบื่อทะเลน้ำเค็มแล้ว ทะเลเทียมที่สวนน้ำซานโตรินีถือเป็นอีกตัวเลือกน่าสนใจค่ะ

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Poseidon's Lagoon

ส่วนสูง : ผู้ที่ส่วนสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตร ต้องสวมชูชีพ
อุปกรณ์ : บอร์ดโฟม












เอาใจเด็กน้อยกันไปแล้ว มาเอาใจเด็กโตหรือเด็กที่มีความสูงระหว่าง 120-130 เซนติเมตร กันบ้าง (เด็กที่สวมสายรัดข้อมือสีฟ้า) ซึ่งทางสวนน้ำซานโตรินีได้เปลี่ยนกฎใหม่ให้เด็กที่มีส่วนสูงช่วงดังกล่าวเล่นเครื่องเล่นของผู้ใหญ่ได้แล้ว (ยกเว้น Ares's King Cobra และ Athena's Space Shaker) แต่ถึงจะไม่สนุกสุดติ่งแบบคนโต แต่ขอบอกว่าคุ้มราคาค่าบัตรแน่นอน ที่สำคัญยังรับประกันเรื่องความปลอดภัยเหมือนเดิม





มาเรียกน้ำย่อยกันด้วย Venus Free Fly เครื่องเล่นหลากสีที่มีความหวาดเสียวในระดับอนุบาล ที่ก่อนเล่นนั้นต้องหยิบแผ่นรองสไลด์สีฟ้ามาใช้เพื่อให้คุณลื่นปรื๊ด ๆ ลงมาอย่างสนุก สำหรับใครที่อยากได้ภาพสวย ๆ ก็อย่าลืมแตะสายรัดข้อมือดิจิตอลที่เครื่องสแกนนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ดิ่งลงไปเลย

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Venus Free Fly

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : สไลด์ได้ 1 คน มีน้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม
อุปกรณ์ : แผ่นรองสไลด์







ว้าบบบ...แป๊บเดียวก็ถึงด้านล่างแล้ว รับรองว่าหากได้เล่นแล้วจะติดใจค่ะ





มาต่อกันที่เครื่องเล่นใกล้ ๆ อย่าง The Artemis's Rapids สไลเดอร์สีส้ม เครื่องเล่นสนุก ๆ ให้คุณเล่นกันเป็นคู่หรือจะโชว์เดี่ยวโดยใช้ห่วงยางสไลด์ลงมาตามท่อลงสู่สระน้ำด้านล่าง เรียกความตื่นเต้นเบา ๆ (บอกเลยว่าสนุกจนต้องกลับมาเล่นซ้ำอีกรอบ อิอิ) ซึ่งเครื่องเล่นนี้เด็กที่มีส่วนสูงตั้งแต่ 120-130 เซนติเมตร และผู้ใหญ่สามารถเล่นได้สบาย ๆ ค่ะ

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น The Artemis's Rapids

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : 1 คน น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม / 2 คนไม่เกิน 200 กิโลกรัม
อุปกรณ์ : ห่วงเดี่ยว / คู่






เครื่องเล่นต่อมา The Thunder of Zeus สไลเดอร์สีเหลืองให้คุณสนุกกับความคดเคี้ยวของท่อปิดยาวกว่า 128 เมตร เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสลับไป-มา ท่ามกลางความมืดมิดให้ความรู้สึกลุ้นระทึกหน่อย ๆ ก่อนจะดำดิ่งลงสู่สระน้ำ

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น The Thunder of Zeus

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : 1 คน น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม / 2 คนไม่เกิน 200 กิโลกรัม
อุปกรณ์ : ห่วงเดี่ยว / คู่










งานนี้แอบส่องคนอื่น ๆ ก่อนแล้วค่อยเล่น >< บางคนก็ท่าสวยปิ๊ง บางคนก็หน้าทิ่มลงมาเลย...แต่ไม่ลองก็คงไม่รู้











ผลคือ...หน้าทิ่มลงมาเหมือนกัน ใครที่จะเล่นเครื่องเล่นนี้ก็ต้องฝึกการทรงตัวกันหน่อยนะคะ หากไม่อยากให้เพื่อน ๆ แอบถ่ายภาพตอนที่คุณกำลังทำหน้าเหวอ TT ขึ้นไปอย่างเท่แต่มาตายตอนจบเฉย







อิชั้นยังไม่ย่อท้อนะคะ ขอเดินหน้าแก้ตัวต่อไป มองหาเครื่องเล่นวัดใจที่มั่นใจว่ามันจะจบด้วยความสวยงาม บอกเพื่อน ๆ ที่มาด้วยเตรียมแชะภาพสวย ๆ กันได้เลยนะตัวเธอ ว่าแต่จะเล่นอะไรดีนะที่มันไม่ฆ่าตัวเอง >< เหลียวซ้ายแลขวาหันมาเจอ Hermes Falls

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Hermes Falls

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : สไลด์ได้ 1 คน น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม






สไลเดอร์ยักษ์สีส้ม ในระดับความสูงกว่า 12 เมตร แต่ข้อดีของมันคือเป็นสไลเดอร์แบบท่อปิด ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่าเพื่อน ๆ จะเห็นหน้าตาเหยเกของเรา 555 เพียงแต่ตอนที่สไลด์ลงมาสู่โลกกว้างก็ต้องเก๊กสวยกันหน่อยเพื่อให้ได้รูปสวย ๆ กับเขาบ้าง


อะฮ้าาา ความมั่นใจเริ่มมา ประมาณว่าเครื่องเริ่มติด ความกลัวเริ่มหายไป เลยมองหาเครื่องเล่นที่มีความหวาดเสียวแบบถึงใจกันบ้าง เดินมาเจอกับ Vulcan's Kamikaze สไลเดอร์สีขาวสะดุดตาที่มีความชันและมีความสูง 18 เมตร !!!! (เอามือทาบอกแป๊บ) และก็เช่นเคยจ้ะ แอบดูคนอื่นเล่นก่อนแล้วค่อยเล่นตาม อิอิ (เชื่อว่าหลายคนก็เป็นแบบนี้) เดินขึ้นบันไดด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แค่นี้ก็ขาสั่นแล้ว พอไปถึงชั้นที่ต้องทิ้งตัวลงมาก็หวาดเสียวใช่ย่อย นาทีนั้นรวบรวมลมปราณและความกล้าแบบสุด ๆ

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Vulcan's Kamikaze

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : สไลด์ได้ 1 คน น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม








อ้อ...ลืมบอกไปว่า จุดนี้มีเครื่องสแกนสำหรับใครที่อยากได้ภาพสวย ๆ ของตัวเองขณะดิ่งลงสู่เบื้องล่างด้วยนะจ๊ะ ถ้ามั่นใจว่าหน้าเป๊ะก็เอาเลยค่ะ










ทำใจอยู่แป๊บจนไลฟ์การ์ดต้องเกลี้ยกล่อม 55555 ไหน ๆ ก็ไหนไหนแล้ว ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก (หราาาา) ที่ไม่ลงเพราะกลัวเสียฟอร์มมากกว่า กลั้นใจหลับตาแล้วทิ้งตัวลงสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น เข้าใจความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างซาบซึ้ง หากขับรถอยู่บนท้องถนนอาจจะชิล ๆ แต่หากมาทิ้งตัวลงจากสไลเดอร์แห่งนี้แล้วคุณจะรู้เลยว่ามันแตกต่างกันมากกกกกก ส่วนภาพที่ออกมาก็ไม่สามารถออกอากาศได้จริง ๆ ค่ะ บอกเลยว่าอายตัวเอง Y__Y





ใครอยากดูโฉมหน้าตัวเองตอนเล่นเครื่องเล่นก็สแกนสายรัดข้อมือได้ที่ตู้นี้เลยค่ะ









พักหายใจหายคอกันก่อน ได้เวลากินข้าวกลางวัน ซึ่งในสวนน้ำจะมีร้านอาหารด้วย









หรือใครอยากดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ก็มาสั่งกันได้ โดยสามารถใช้เงินสดหรือเพื่อความสะดวกในการพกพาหากอยากซื้อสินค้าต่าง ๆ ก็เพียงแค่ต้องเติมเงินลงในสายรัดข้อมือเสียก่อน พอจะจ่ายค่าอาหารก็แค่สแกนสายรัดข้อมือ เมื่อนำสายรัดข้อมือมาคืนที่เคาน์เตอร์ก็จะได้เงินที่เหลือคืนครบทุกบาททุกสตางค์จ้ะ เรียกว่าเติมไว้ไม่เสียหลาย กินไม่กินค่อยว่ากัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลา





หากมาเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์แบบที่มีคนเยอะ ๆ ก็อาจจะเลือกเช่าคาบาน่า ซึ่งเป็นที่พักภายในสวนน้ำ แต่ไม่ใช่ที่พักค้างคืนนะจ๊ะ แต่สามารถพักได้ทั้งวันที่อยู่ในสวนน้ำ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า สำหรับอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 2,000 บาท/วัน หากเช่าหลังจาก 15.00 น. ราคาจะอยู่ที่ 1,200 บาท































ภายในจะมีโซฟา ทีวี มุมรับประทานอาหาร ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่มากันแบบครอบครัว






เมื่อชาร์จพลังกันเต็มที่แล้ว ก็มาถึงเครื่องเล่นต่อไป ได้แก่ Bacchus's Magic Hole สไลเดอร์สีฟ้า-ขาวที่ดูภายนอกแสนธรรมดาและไม่น่ากลัว (ความคิดตอนนั้น - -") แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้วรู้สึกมึนเบา ๆ แต่ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงด้านล่างแล้ว ซึ่งไฮไลท์ก็อยู่ที่แอ่งน้ำวงกลมนั่นแหละค่ะ...พอมาถึงจุดนั้นต้องบอกว่าสนุกเกินคาดจริง ๆ อ้อ...อย่าลืมสวมหมวกกันน็อกก่อนสไลด์ลงมาด้วยนะจ๊ะ

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Bacchus's Magic Hole

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม
อุปกรณ์ : หมวกกันน็อก






เมื่อลงมาแล้วเราก็จะเห็นสไลเดอร์สีเหลืองอยู่ข้าง ๆ Bacchus's Magic Hole ซึ่งดูภายนอกก็คล้ายกันอยู่ แต่หากส่องดี ๆ จะเห็นว่ามันมีความน่าสนใจตรงที่เวลาดิ่งลงด้านล่าง เพราะมันจะมีท่อคล้าย ๆ แคปซูลให้เราเข้าไปแล้วปล่อยลงมาแบบไม่รู้ตัว แต่สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่าได้เล่นด้วยตัวเอง มันจะน่ากลัวสักแค่ไหนเชียว...ไหน ๆ มาแล้วก็ลองเล่นสักหน่อย





ตอนเดินขึ้นบันไดก็ยังรู้สึกเฉย ๆ อยู่นะ แต่พอกำลังจะเข้าไปอยู่ในแคปซูลจริง ๆ รู้สึกหวิว ๆ เหมือนกัน ถามพี่ไลฟ์การ์ดว่าเครื่องเล่นนี้ชื่อว่าอะไร พี่แกบอกว่า "Apollo's Drop Screamer" อืมมม...แค่ชื่อก็บอกถึงความน่ากลัวอยู่แล้ว >< แต่ก็เอาเถอะมาถึงขั้นนี้แล้ว

ข้อควรปฎิบัติของเครื่องเล่น Apollo's Drop Screamer

จำกัดส่วนสูง : ส่วนสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร ห้ามเล่น
จำกัดน้ำหนัก : สไลด์ได้ 1 คน น้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม

ตัดสินใจพาตัวเองเข้ามาอยู่ในแคปซูล ด้วยความที่ประตูเป็นกระจกใส ทำให้มองเห็นวิวของสวนน้ำและภูเขาในมุมที่สูงมากกกก แค่อยู่เฉย ๆ ก็หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว พอเริ่มทำใจได้ภารกิจครั้งนี้ก็เริ่มขึ้น 3 2 1.... let's gooooo เพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงด้านล่างแล้ว แต่ความรู้สึกช่างยาวนาน ใจหวิว ๆ หายใจไม่ทั่วท้อง บอกเลยว่าที่สุดแล้วจริง ๆ สำหรับเครื่องเล่นนี้ คิด (เอง) ว่าถ้าผ่านเครื่องเล่นนี้ไปได้ก็เล่นได้ทุกอย่างแล้วล่ะ





มาถึงเครื่องเล่นตัวท็อปของผู้ใหญ่กันบ้าง งานนี้น้อง ๆ หนู ๆ ที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตร อดนะจ๊ะ และเครื่องเล่นที่ว่านี้ คือ Ares's King Cobra และ Athena's Space Shaker กำลังลังเลอยู่ว่าจะเล่นอะไรก่อนดี แต่เขาบอกกันว่า Ares's King Cobra เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ดังนั้นของดีก็ต้องเก็บไว้สุดท้าย 5555 เลยตัดสินใจเล่น Athena's Space Shaker ก่อน






รีวิวสระมรกต

พาเที่ยวสระมรกต สถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมากระบี่ พร้อมวิธีเดินทาง   ส วัสดีครับ..พอดีผมได้มีโอกาสไป เที่ยวกระบี่ ...